วิธีเล่นไพ่ เสือ-มังกร
วิธีเล่นไพ่ เสือ-มังกร ไพ่ เสือมังกร เป็นเกมส์ไพ่ที่มีความคล้ายกับเกมส์ บาคาร่าออนไลน์ อย่างมาก
แต่มันจะแตกต่างกันที่ บาคาร่านั้นสามารถวางเดิมพันได้หลายรูปแบบ และมีการเล่นที่หลายรูปแบบมากกว่า
และจะสามารถเลือกไพ่ได้สามใบ แต่ไพ่เสือมังกรนั้นไม่สามารถเลือกเพิ่มได้ นั้นก็คือเปิดไพ่ใบเดียวก็สามารถได้กินเงินกันแล้วนั้นเอง
แต่ความดีของไพ่เสือมังกรก็มี เช่น ความเร็วในแต่ล่ะเกมส์ ความง่ายในการเลือกแทง และอัตราการจ่ายที่ง่าย
มันจึงเป็นเกมส์ที่ได้รับความนิยมไม่น้อยไปกว่าบาคาร่าเลย
กติกาการเล่น เสือมังกร
-
- ในการวางเดิมพันท่านสามารถเลือกวางเดิมพันได้ 3 แบบ นั้นก็คือ เสมอ เสือชนะ มังกรชนะ
- ในเกมส์แต่ล่ะเกมส์ท่านจะมีเวลาวางเดิมพันเพียง 25-50 วินาที แล้วแต่โต๊ะและเว็บไซต์ที่ท่านเลือกเล่น ก่อนที่ดีลเลอร์จะทำการหยุดรับการวางเดิมพันแล้วเปิดไพ่
- คะแนนของไพ่แต่ล่ะใบ K = 13, Q = 12, J = 11, A = 1 นอกนั้นคะแนนของไพ่ก็คิดตามตัวเลขบนไพ่
- การตัดสินแพ้ชนะนั้น จะดูที่จำนวนคะแนนของไพ่แต่ล่ะฝั่ง และดีลเลอร์นั้นจะแจกไพ่ฝั่งล่ะใบ เพื่อที่จะเป็นการวัดดวงไปเลยว่า ไพ่ฝั่งใหนจะมีคะแนนมากกว่ากัน
- หากผลออกเสมอ(Tie) ท่านที่วางเดิมพันในช่อง เสือหรือมังกร จะเสืยเงินเดิมพันเพียง 50% เช่นท่านวางเดิมพันมังกร 100 บาท แต่ผลออกมาเป็นเสมอ ท่านจะเสียเงินเพียง 50 เหลือทอน 50 บาทนั้นเอง
1. แสดงโปรไฟล์ ชื่อผู้เล่น รายงานเกมส์และลำดับผู้เล่น โต๊ะลุ้นไพ่ทั้งโต๊ะหลักและเล่นหลายโต๊ะ และเดิมพันปั๊กออนไลน์ที่แสดงผลบันทึกการเดิมพันและสถิติชนะ
2. แสดงผลไพ่ที่เปิด 2 ฝั่งคือ “Dragon”กับ “Tiger ” ซึ่งจะมีเวลาให้ท่านวางเดิมพัน15 วินาที ฝ่ายที่ได้แต้มไพ่มากกว่าจะเป็นฝ่ายชนะทันที
3. ปุ่มตัวเลือกการปรับมุมกล้อง แต่ละโต๊ะผู้เล่นสามารถเลือกกล้องถ่ายทอดสดได้มากกว่า 1 ตัว ในแต่ละมุมมอง
4. แสดงอัตราการวางเดิมพันของผู้เล่นทั้งหมด เช่น บัญชี,แบงเกอร์,เจ้ามือเดิมพัน,เป็นต้น
5. สามารถกดเพื่อเปลี่ยนโต๊ะพนัน หรือกลับสู่หน้าล็อบบี้เกมส์
6. โต๊ะเปิดไพ่เจ้ามือจะทำการเปิดไพ่ 2 ฝั่ง หลังหมดสัญญาณการวางเดิมพัน
7. ชิปในการแทงพนัน มีขั้นต่ำตามรูปภาพ ผู้เล่นต้องทำการลากชิปไปยังช่องที่ต้องการวางเดิมพัน ผู้เล่น,เจ้ามือ,และเสมอ ได้ตามจำนวนที่เลือกได้เลย
8. แสดงผลสถิติในการชนะเกมส์บาคาร่าในแต่ละรอบบนโต๊ะ มีทั้ง Dragon , Tiger และ Tie
9. รูปแบบโต๊ะวางเดิมพันที่ผู้เล่นสามารถเลือกวางเดิมพันได้ตามช่องที่ปรากฏในรูป
อัตราการจ่ายเงินของ เสือมังกร ดังต่อไปนี้
- Dragon ทายว่าแต้มรวมไพ่ของฝั่ง มังกร จะเป็นผู้ชนะ จ่าย 1 : 1
- Tiger ทายว่าแต้มรวมไพ่ของฝั่ง เสือ จะเป็นผู้ชนะ จ่าย 1 : 1
- Tie Game ทายว่าแต้มรวมของทั้งสองฝั่งจะออกเสมอ จ่าย 1 : 8
รูปแบบการเล่น เสือมังกร
การวางเดิมพันของ เกมส์คาสิโนสด ไพ่เสือมังกร ก็มีอยู่ 3 แบบ นั้นก็คือการแทง เสมอ เสือ มักร และแต่ล่ะแบบนั้นก็จะมีความแตกต่างกันออกไปนั้นเอง เราจึงอยากที่จะไห้ท่านนั้นได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเล่นและการวางเดิมพันในแบบต่างๆ
1. การวางเดิมพันเสมอ
การวางเดิมพันเสมอนั้น ท่านจะชนะก็ต่อเมื่อ ไพ่ทั้งสองฝั่งนั้นมีคะแนนเท่ากัน ซึ่งเป็นไปได้ยากมาก จึงทำไห้อัตราการจ่ายของการเดิมพันเสมอนั้นมีอัตราการจ่ายสูง หากท่านแทงเสมอชนะ ท่านจะได้รับเงินเดิมพันมากถึง 8 เท่าจากยอดเงินที่ท่านนั้นวางเดิมพัน
2. การวางเดิมพันฝั่งมังกรหรือสีแดง
ฝั่งของมังกรนั้น จะเป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ก่อน และมีโอกาศเปิดไพ่ก่อน มันจึงทำไห้ไพ่ฝั่งนี้นั้นมีโอกาศที่จะรู้คะแนนก่อนนั้นเอง และมีอัตราการจ่ายที่ 1:1
3. การเดิมพันฝั่งเสือหรือสีน้ำเงิน
เป็นฝั่งที่ได้รับไพ่ทีหลัง และจะได้เปิดไพ่ทีหลัง มันจึงทำไห้ฝั่งนี้นั้นมีการที่สามารถรู้ก่อนว่า คู่แข่งของเรานั้นได้ไพ่อะไรนั้นเอง และมีอัตราการจ่ายอยู่ที่ 1:1
วิธีการเล่น ไพ่เสือมังกร
- เมื่อเริ่มเกมส์ สมาชิกจะสามารถวางเดิมพันได้ว่า ฝั่งใหนจะมีแต้มสูงกว่าระหว่าง เสือ มังกร หรือ เสมอ
- ดีลเลอร์จะทำการแจกไพ่ มังกร 1 ใบ และเสือ 1 ใบ
- เมื่อเปิดไพ่จะนับแต้มจากไพ่เพียงใบเดียว ฝั่งไหนมีคะแนนเยอะกว่าถือว่าชนะและได้รับเงินเดิมพัน
- ไม่มีการเรียกไพ่ใบที่ 2 หรือ 3 เหมือนบาคาร่า
ข้อดีของ เสือมังกร
- อัตราการจ่ายเงินรางวัลเยอะ และยุติธรรม
- มีหน้าเล่นเกมส์ที่เข้าใจง่าย
- มีการแพ้ชนะที่รวดเร็ว เหมาะกับผู้ที่ชอบความรวดเร็วของเกมส์พนัน
ข้อเสียของ เสือมังกร
- มีความเสี่ยงเยอะ เนื่องจากเกมส์ไว ถ้าดวงไม่ดีก็เสียไวเช่นกัน
- ไพ่ใบเดียว ลุ้นน้อย เรียกไพ่เพิ่มไม่ได้ อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ชอบลุ้นไพ่ยาวๆ
- ตัวเลือกในการเล่นค่อนข้างน้อย มีแค่ 3 ตัวเลือก